เติมพลังกันเสร็จแล้วถึงเวลาเดินหาที่พัก…
นทหาทั้งในเว็บจองที่พัก หรือหารีวิวใน pantip แต่ราคาล้วนแล้ว 1000+ หมดเลย
ซึ่งอย่างที่บอกไปคืองบเราจำกัดสุดพลัง เลยเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆ
ไร้จุดหมายในชีวิต เดินเข้าที่นู่นที่นี่จนมาเจอกับที่นี่ครับ
“เรือนสบายริมสายน้ำอัมพวา”
จริงๆเราเจอสองที่ครับราคาเดียวกันเลย
แต่เรารู้สึกถูกชะตากับพี่เจ้าของที่นี่ (เพราะเขาลดราคาให้นั่นแหละ 555)
ซึ่งงานต่อราคาก็มาจ้าบอกเลย ราคาปกติของที่นี่อยู่ที่ 800 บาท/คืน/2คน
เราไป 7 คนจึงต้องจอง 3 ห้อง + 1 เตียงเสริม ราคารวมต้อง 2,700 บาทโดยประมาณ
แต่พี่เขาใจดี หรือเขาสงสาร หรือเราต่อจนเค้ากลัว เอ๊อะช่างเถอะ 555
เขาลดราคาให้เหลือ 2,100 บาท จ้า #MissionComplete
มีที่นอนแล้ว เย้ !
ไม่รีรอเช็คอินเลยจ้า ซึ่งระหว่างที่ทำการเตรียมห้อง
พี่เจ้าของก็เอาฝรั่งจิ้มพริกเกลือมาให้ทานกันเล่นๆด้วยครับ
บรรยากาศตัวที่พักอยู่ในตลาดน้ำอัมพวาเลยครับ
ตัวบ้านจึงเป็นไม้ทั้งหลัง เดินออดแอดๆ แต่แข็งแรงดีนะ
ภายในตัวโรงแรมไม่ค่อยได้ตกแต่งอะไรมากเพราะ
ด้วยเอกลักษณ์ของอัมพวามันเป็นเสน่ห์ด้วยตัวมันเองอยู่แล้วแหละ
สำหรับห้องที่นทเข้าพักชื่อห้องว่า “ชงโค”
จริงๆมีอีกสองห้องแต่จำชื่อไม่ได้และห้องถูกระเบิดแล้วเลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บมาให้ดูกัน 555
ด้วยความเป็น 1st Time อะไรๆก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน
เปิดห้องมาเป็นห้องนอนปกติแต่…มีที่อาบน้ำอยู่ในห้องด้วย !
คุณพระ…เอาจริงๆไม่เคยเจอมาก่อน 5555
เปิดแอร์อาบน้ำงี้หรอ โอ้ยยยยย… ไทยแลนด์อเมซิ่งสุดพลัง
อ้อ*ห้องน้ำสำหรับถ่ายทุกข์อยู่ด้านนอกครับใช้ร่วมกันกับห้องอื่น
ไม่ได้ถ่ายมา เป็นห้องน้ำเล็กๆ Minimal Style สุด แต่สะอาดดีนะ 🙂
บรรยากาศในห้องก็จะเป็นไม้ๆทาด้วยสีชมพูห้องโทนสีชมพู
มีเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เก็บของ และทีวีตัวน้อยให้ดู
เป็นเตียงใหญ่ครับ นอนสองคน เห็นอย่างนี้มีแอร์ให้ด้วยนะ
ถึงจะแอร์กี่ไปหน่อย แต่กลางคืนหนาวได้เรื่องเลยทีเดียว
ด้วยความ 1st Time กับเจ้าห้องน้ำในห้องนอน ด้วยความสงสัยว่า
“ใครแม่งจะบ้าอาบน้ำเย็นในห้องแอร์วะ”
ซึ่งในห้องน้ำนี่เราแอบเหลือบเห็นปุ่มปรับร้อนเย็นด้วย
โฮว…รอดตาย แต่เดี๋ยวก่อน…ปุ่มหมุนได้แต่ไม่ร้อน T_T
สุดท้ายเราก็ต้องอาบน้ำเย็นกันในห้องแอร์สินะ ก็ทนไป 1st Time ไป 5555
มาดูบรรยากาศข้างนอกกันบ้างดีกว่า
ที่นี่เขามีที่นั่งข้างนอกให้ชมวิว และรับประทานอาหารกันด้วยครับ
แอบบอกว่าถ้าสั่งขึ้นมากินบนนี้ ลดราคาอีก 10% ด้วยนะ 🙂
พอหอมปากหอมคอกับที่พัก ราคาถูกที่เราหากันเลือดตาแทบกระเด็นมาได้ #หรอ
มาอัมพวาไม่ไปดูหิ่งห้อย มันก็มาไม่ถึงอ่าเซ่.. ไป! ไปดูหิ่งห้อยกัน!
แตด้วยเวลาขณะนั้นเกือบ 3 ทุ่ม เรือพาเที่ยวหมดแล้วต้องเหมาอย่างเดียว
ถามเจ้าไหนก็ 600 น้อง ต้องเหมาน้อง หมดเที่ยวแล้ว T_T
ด้วยความงกอีกแล้ว…เราต้องการของถูก เราต้องการของถูก ! งานหาเรือต้องมา
ระหว่างเดินหาเรือราคาถูก
อุ๊ย…งานทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทยก็มา 5555
หาไม่เจอซักที จนนั่งแวะพักกินไอศครีมจากร้าน “ศรีมาลา”
ด้วยหน้าตาละเหี่ยใจหาเรือไปไม่ได้…จนพี่เจ้าของร้านบอกว่า
เดี๋ยวพี่หาเรือให้ ราคา 500 บาท เหมาลำจัดไป #MissionComplete
(แต่เดี๋ยวพึ่งกินไอศครีมไปคนละ 40 บาท 555)
ระหว่างรอพี่เรือพาเที่ยวมารับ มาดูไอศครีมที่สั่งกินกันแพ๊พ…
จริงๆ นทรู้จัก ศรีมาลาจาก SME ตีแตกนะ นทดูตอนนั้นด้วย
กี่ปีมาแล้วก็ไม่รู้จำไม่ได้…รู้แต่ว่าเห้ยยฉันเคยดูนะเหวย
ไอศครีมของเขาจะเป็นไอศครีมรสชาติแปลกๆ ใส่ไอเดียลงไปให้ดูน่ากิน
ก็สั่งกินกันหลายคนไม่ว่าจะเป็น
รสฝรั่งคลุกบ๊วย , อัญชันมะพร้าวอ่อน , เสาวรสราดน้ำผึ้ง ,
ดาหลาไวน์ , มะยมคลุกพริกเกลือ , เผือกแปะก๊วย
บอกเลยว่าเด็ดทุกรส ประหลาดทุกรส 5555
พี่เรือพาเที่ยวยังไม่มารับซักที แอบขอเล่นกับน้องหมาที่ร้านก่อน :3
เรือมาแล้ว ชักช้าอยู่ใย ใส่เสื้อชูชีพแล้วโดดลงเรือไปพร้อมกันเลย .___. /
ด้วยความที่ว่าตอนนี้ทุกสิ่งอย่างรอบทิศทางมืดมาก
เป้าหมายสิ่งเดียวของเราคือ ” หิ่งห้อย “
ซึ่งเราก็ได้เจอกันแล้วจ้ากับน้องหิ่งห้อย #MissionComplete
เออ…เอาจริงๆแอบสงสัยนะ ทำไมหิ่งห้อยกระพริบพร้อมกัน
จนคิดว่า เขาเอาไฟกระพริบๆปีใหม่มาหลอกเราหรือเปล่า 555
ภารกิจทุกสิ่งอย่างลุล่วงไปด้วยดี
ทั้งโรงแรมต่อราคา…เรือพาเที่ยวต่อราคา…และน้องหิ่งห้อยของเรา 🙂
ขอนอนพักแรงแล้วมาดูกันดีกว่าพรุ่งนี้เช้าจะตื่นไปทำงานทันกันรึเปล่า ?!
.
.
.
ภาพตัดไปที่ตอนเช้า
.
.
.
นาฬิกาดังขึ้นเวลา ตีห้าสิบห้า ….
วันนี้ไม่เป็นเหมือนทุกครั้งที่เราสามารถ Snooze แล้วนอนต่อได้
ตื่นขึ้นมาอาบน้ำกับความหนาวเหน็บในห้องแอร์ 25 องศากัน
มีคนบอกว่าแล้วไมไม่ปิดแอร์อาบ…เออลืมคิด #ถถถถถ
อาบเสร็จแล้วเก็บข้าวของเตรียมกลับไปทำงานให้ทัน 555
เตรียมตัวออกจากที่พักกันเถอะ 🙂
ก่อนกลับมาดูบรรยากาศอัมพวาในตอนเช้ากัน
มีพระพายเรือมาบิณฑบาตรด้วย เป็นเสน่ห์ที่นี่จริงๆนะ 🙂
ก็จบกันแล้วกับทริปฉุกละหุก Amphawa 1st Time
Mission สุดท้ายกับการถึงที่ทำงานก่อน 9.30 ถามว่าทันมั้ย
ตอบเลยว่า “ทันจ้า” ถึงเฉียดๆเลยแหละ 🙂
มาดูราคาที่เสียไปกัน….
ค่าที่พักคนละ 300 บาท
ค่าข้าวมื้อเย็นคนละ 60 บาท
ค่าไอศครีมคนละ 40 บาท
ค่านั่งเรือเที่ยวชมหิ่งห้อยคนละ 70 บาท
สรุปทริปนี้เสียไปคนละ 470 บาท (ไม่รวมค่าน้ำมันรถเดินทาง)
ก็เป็นอีกหนึ่งทริปที่…ตอนเขียน Blog นี้ยังงงเลยว่า
ทำไปเพื่่ออะไร ? 5555
เกิดมาทั้งทีก็ต้องทำอะไรให้มันสุดๆ เพิ่มสีสันให้ชีวิต ใช่ไหมหล่ะ:)
สำหรับทริปหน้าจะพาไปที่ไหน อย่าลืมตามมาดูกันนะจ๊ะ
สำหรับวันนี้…ขอตัวลาไปหาทริปใหม่ก่อน
แต่คราวนี้จะวางแผนชีวิตละ ไม่เอาฉุดละหุกแบบนี้ ในวันอาทิตย์แบบนี้ 555
ไปละครับ บร๊ายยยยยยยยยยย ~
เอ้า !! กราบบบบบ -/\-
Sign up here with your email